MP3-P067 - เทคนิคการสอบสัมภาษณ์

พระราชบัญญัติ
ธนาคารออมสิน
พ.ศ. ๒๔๘๙
ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
รังสิต กรมขุนชัยนาทนเรนทร
พระยามานวราชเสวี
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๙
เป็นปีที่ ๑ ในรัชกาลปัจจุบัน
โดยที่เป็นการสมควรจัดตั้งธนาคารออมสินขึ้น เพื่อส่งเสริมสวัสดิภาพแห่งสังคมในทางทรัพย์สิน
พระมหากษัตริย์โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภาจึงมีพระบรมราชโองการให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ. ๒๔๘๙”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติคลังออมสิน พุทธศักราช ๒๔๕๖ พระราชบัญญัติคลังออมสินแก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช ๒๔๗๒ พระราชบัญญัติคลังออมสิน (ฉบับที่ ๓) พุทธศักราช ๒๔๗๙ และบรรดากฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่น ๆ ในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัตินี้หรือซึ่งแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
“ผู้อำนวยการ” หมายความว่า ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน
“รองผู้อำนวยการ” หมายความว่า รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการธนาคารออมสิน
มาตรา ๕ ให้ธนาคารออมสินได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ ภาษีโรงค้า ภาษีการธนาคาร การออมสินและอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร
มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงและข้อบังคับเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
กฎกระทรวง และข้อบังคับนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
หมวด ๑
การจัดตั้งและดำเนินงาน
มาตรา ๗ ให้จัดตั้งธนาคารออมสินขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจ ดังต่อไปนี้
๑. รับฝากเงินออมสิน
๒. ออกพันธบัตรออมสิน และสลากออมสิน
๓. รับฝากเงินออมสินเพื่อสงเคราะห์ชีวิตและครอบครัว
๔. ทำการรับจ่ายและโอนเงิน
๕. ซื้อหรือขายพันธบัตรรัฐบาลไทย
๖. ลงทุนเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ซึ่งรัฐมนตรีอนุญาต
๗. การออมสินอื่น ๆ ตามที่จะมีพระราชกฤษฎีกากำหนดไว้
๘. กิจการอันพึงเป็นงานธนาคาร ตามที่จะมีพระราชกฤษฎีกากำหนดไว้ ทั้งนี้ ให้ประกอบได้ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง
มาตรา ๘ ให้ธนาคารออมสินเป็นนิติบุคคล
มาตรา ๙ ให้ธนาคารออมสินตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ในจังหวัดพระนครและจะตั้งสาขาหรือตัวแทนขึ้น ณ ที่ใดในราชอาณาจักรก็ได้
มาตรา ๑๐ ให้โอนบรรดาทรัพย์สิน สินทรัพย์ ความรับผิดและธุรกิจของคลังออมสิน กรมไปรษณีย์โทรเลขให้แก่ธนาคารออมสินดำเนินกิจการต่อไป
ให้รัฐมนตรีประกาศวันซึ่งได้โอนดังกล่าวแล้วในราชกิจจานุเบกษา
หมวด ๒
การกำกับ ควบคุม และจัดการ
มาตรา ๑๑ ให้รัฐมนตรีมีอำนาจและหน้าที่กำกับโดยทั่วไปซึ่งกิจการของธนาคารออมสิน
มาตรา ๑๒ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า “คณะกรรมการธนาคารออมสิน” ประกอบด้วยประธานกรรมการหนึ่งคน และกรรมการอื่นอีกไม่น้อยกว่าหกคนแต่ไม่เกินสิบสามคนซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง และให้ผู้อำนวยการเป็นกรรมการและเลขานุการ
มาตรา ๑๒/๑ ให้ประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งคราวละสามปี
ในกรณีที่ประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระหรือในกรณีที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการเพิ่มขึ้นในระหว่างที่กรรมการซึ่งแต่งตั้งไว้แล้วยังมีวาระอยู่ในตำแหน่ง ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนหรือเป็นกรรมการเพิ่มขึ้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
เมื่อครบกำหนดตามวาระดังกล่าวในวรรคหนึ่ง หากยังมิได้มีการแต่งตั้งประธานกรรมการหรือกรรมการขึ้นใหม่ ให้ประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้น อยู่ในตำแหน่งเพื่อดำเนินงานต่อไปจนกว่าประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่
ประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระอาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้แต่ไม่เกินสองวาระติดต่อกัน
มาตรา ๑๒/๒ ผู้มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ต้องห้ามมิให้เป็นประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
(๑) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของธนาคารออมสิน
(๒) เป็นกรรมการหรือดำรงตำแหน่งใด ๆ ในธนาคารอื่น
(๓) เป็นหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลาย
(๔) เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(๕) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(๖) เคยเป็นกรรมการ ผู้จัดการ รองผู้จัดการ ผู้ช่วยผู้จัดการ ของธนาคารพาณิชย์ ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต เว้นแต่จะได้รับยกเว้นจากคณะรัฐมนตรี
(๗) เป็นผู้มีมลทินมัวหมองว่าทุจริตในสถาบันการเงินใด หรือบริหารงานในสถาบันการเงินใดผิดพลาดอย่างร้ายแรง
มาตรา ๑๒/๓ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามมาตรา ๑๒/๑ ประธานกรรมการและกรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) คณะรัฐมนตรีให้ออกเพราะบกพร่องต่อหน้าที่หรือมีความประพฤติเสื่อมเสียหรือหย่อนความสามารถ
(๔) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๒/๒
(๕) ขาดการประชุมคณะกรรมการเกินกว่าสามครั้งต่อเนื่องกัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร
มาตรา ๑๓ การประชุมคณะกรรมการ ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดจึงเป็นองค์ประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุม ให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
มาตรา ๑๔ ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่วางนโยบายและควบคุมดูแลโดยทั่วไป ซึ่งกิจการของธนาคารออมสิน อำนาจหน้าที่เช่นว่านี้ให้รวมถึง
(๑) แต่งตั้งหรือถอดถอนจากตำแหน่ง และกำหนดอัตราเงินเดือนของผู้อำนวยการด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรี
(๒) ตั้งหรือเลิกสาขาและตัวแทน
(๓) กำหนดขอบเขตทั่วไปและเงื่อนไขแห่งธุรกิจประเภทต่าง ๆ ตามมาตรา ๗ (๑) ถึง (๗)
(๔) กำหนดระเบียบและข้อกำหนดของธนาคารออมสินเกี่ยวกับการบริหารและการดำเนินงาน
(๕) เสนองบดุล ฐานะการเงิน และรายงานประจำปีตามมาตรา ๒๕ และมาตรา ๒๖
(๖) กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบรรจุ แต่งตั้ง เลื่อนตำแหน่งหรือเงินเดือน ลงโทษทางวินัย หรือถอดถอนจากตำแหน่งของพนักงาน
(๗) เรียกประกันจากพนักงาน กำหนดเงินเดือน เงินบำเหน็จรางวัลหรือเงินอื่นของพนักงาน
มาตรา ๑๕ ให้ประธานกรรมการและกรรมการได้รับผลประโยชน์ตอบแทนตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
ประธานกรรมการ กรรมการ ผู้อำนวยการ พนักงานและลูกจ้าง อาจได้รับโบนัสตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
มาตรา ๑๖ ให้ผู้อำนวยการเป็นผู้จัดการธนาคารออมสิน มีอำนาจหน้าที่บริหารกิจการและงานของธนาคารออมสิน ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบและข้อกำหนดของธนาคารออมสินและตามที่คณะกรรมการมอบหมาย และให้มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้
(๑) บรรจุ แต่งตั้ง เลื่อนตำแหน่งหรือเงินเดือน ลงโทษทางวินัย หรือถอดถอนจากตำแหน่งของพนักงาน ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
(๒) กำหนดวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินงานของธนาคารและการปฏิบัติงานของพนักงาน ทั้งนี้ โดยไม่ขัดหรือแย้งกับนโยบาย ระเบียบหรือข้อกำหนดของคณะกรรมการ
มาตรา ๑๗ ในกิจการที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้ผู้อำนวยการเป็นผู้กระทำการในนามของธนาคารออมสินและเป็นผู้แทนของธนาคารออมสิน เพื่อการนี้ ผู้อำนวยการอาจมอบอำนาจให้พนักงานหรือบุคคลใดกระทำการแทนก็ได้ ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนด
หมวด ๓
ความมั่นคงและหลักประกัน
มาตรา ๑๘ การลงทุนตามมาตรา ๗ (๕) ต้องได้รับอนุมัติของคณะกรรมการก่อน
มาตรา ๑๙ รายได้ที่ได้มาในปีหนึ่ง ๆ ให้ธนาคารออมสินจ่ายเป็นรายจ่ายในการดำเนินงานดังนี้
(ก) จ่ายดอกเบี้ยเงินฝาก
(ข) จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการธนาคารออมสินภายในวงเงินที่รัฐมนตรีเห็นชอบ
(ค) จ่ายเป็นเงินอื่นใดที่ต้องจ่ายตามข้อผูกพัน
มาตรา ๒๐ รายได้เมื่อได้หักรายจ่ายตามมาตรา ๑๙ แล้ว หากมีจำนวนเหลือหลังจัดสรรเป็นเงินสำรองเพื่อการขยายงาน ให้นำส่งเป็นรายได้ของรัฐในอัตราตามที่รัฐมนตรีกำหนด นอกนั้นให้สะสมไว้สำหรับการธนาคารออมสินต่อไป
ถ้ารายได้ที่ได้มาในปีใดไม่พอแก่รายจ่ายประจำปีนั้น ให้จ่ายจากเงินที่ได้สะสมไว้สำหรับการธนาคารออมสินได้เท่าจำนวนที่ขาด ถ้ายังไม่พอจ่ายรัฐพึงจ่ายเงินให้ธนาคารออมสินเท่าที่จำเป็น
มาตรา ๒๑ ในการคืนต้นเงิน และชำระดอกเบี้ยเงินฝาก ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ในกฎกระทรวงก็ดี และในการจ่ายเงินประเภทอื่น ๆ ตามข้อผูกพันก็ดี รัฐบาลเป็นประกันทั้งสิ้น
หมวด ๔
การถอนเงิน
มาตรา ๒๒ การถอนเงินให้เป็นไปตามข้อกำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๒๓ ถ้าผู้เยาว์ซึ่งมีอายุกว่าเจ็ดปีขึ้นไป ได้ถอนเงินฝากหรือดอกเบี้ยไปจากธนาคารออมสินแล้ว ผู้เยาว์นั้น หรือบุคคลอื่นใดย่อมไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินซึ่งได้ถอนไปแล้ว
ในการนี้ ใบรับซึ่งผู้เยาว์ได้ให้ไว้แก่ธนาคารออมสินสำหรับเงินที่ได้รับไป ย่อมทำให้ธนาคารออมสินหลุดพ้นจากความรับผิดใด ๆ ในจำนวนเงินที่จ่ายไป
มาตรา ๒๔ เมื่อผู้ฝากตาย ให้ธนาคารออมสินจัดการแก่จำนวนเงินฝากดังต่อไปนี้
(๑) ในกรณีที่ได้มีการตั้งผู้จัดการมรดกโดยคำสั่งศาล เมื่อธนาคารออมสินได้จ่ายเงินไปตามหนังสือแจ้งความของผู้จัดการมรดกนั้นแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดในจำนวนเงินที่ได้จ่ายนั้น
(๒) ในกรณีที่ได้มีการตั้งผู้จัดการมรดกโดยพินัยกรรม ให้ธนาคารออมสินตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของพินัยกรรม โดยปฏิบัติตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนดแล้วให้จ่ายเงินไปตามหนังสือแจ้งความของผู้จัดการมรดกนั้น
(๓) ในกรณีที่ไม่มีผู้จัดการมรดก ธนาคารออมสินจะจ่ายคืนจำนวนเงินที่ผู้ตายได้ฝากไว้ให้แก่ผู้ซึ่งอ้างและพิสูจน์ความเป็นทายาทโดยธรรมตามลำดับที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ธนาคารออมสินให้จัดหาผู้ค้ำประกันด้วยก็ได้
(๔) ในกรณีที่มีข้อพิพาทเกี่ยวกับเงินที่ผู้ตายได้ฝากไว้ ธนาคารออมสินจะจ่ายคืนเงินฝากดังกล่าวตามคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดเท่านั้น
(๕) ในกรณีที่ผู้ตายได้ฝากเงินเพื่อประโยชน์ของบุคคลอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้เยาว์ให้ธนาคารออมสินลงชื่อบุคคลนั้นแทนผู้ตาย แต่บุคคลนั้นจะมีสิทธิถอนเงินได้เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้ว หรือเมื่อได้รับอนุญาตเป็นหนังสือของผู้ใช้อำนาจปกครองแสดงว่า การถอนนั้นทำเพื่อประโยชน์ของผู้เยาว์นั้น
หมวด ๕
การสอบบัญชี
มาตรา ๒๕ ให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบบรรดาบัญชีธนาคารออมสิน
ภายในหกเดือนต้นแห่งปีถัดไป ให้รัฐมนตรีประกาศงบดุลตามที่เป็นอยู่ ณ วันสิ้นปีซึ่งผู้สอบบัญชีได้รับรองแล้ว
มาตรา ๒๖ ให้รัฐมนตรีประกาศฐานะการเงินโดยย่อของธนาคารออมสินประจำไตรมาส
ภายในหกเดือนต้นแห่งปีถัดไป ให้รัฐมนตรีประกาศรายงานประจำปีว่าด้วยธุรกิจซึ่งธนาคารออมสินได้จัดทำในระหว่างปี จำนวนผู้ฝาก จำนวนเงินฝาก จำนวนเงินดอกเบี้ยที่จ่าย ผลประโยชน์ที่ได้มาจากเงินทุนและอื่น ๆ สุดแต่จะเห็นสมควร
หมวด ๖
บทเฉพาะกาล
มาตรา ๒๗ ในระหว่างที่การโอนทรัพย์สิน สินทรัพย์ ความรับผิดและธุรกิจตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๐ ยังไม่เสร็จสิ้น ให้คลังออมสิน กรมไปรษณีย์โทรเลข ดำเนินกิจการคลังออมสินดังเช่นเดิมไปพลางก่อน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเรือตรี ถ. ธำรงนาวาสวัสดิ์
นายกรัฐมนตรี
พระราชบัญญัติธนาคารออมสิน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๒
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะให้รัฐวิสาหกิจประเภทเกษตรกรรม พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม การเงินและบริการ ซึ่งมิได้จัดตั้งขึ้นในรูปของบริษัทจำกัดจะต้องนำรายได้ส่งเข้ารัฐในอัตราตามที่รัฐมนตรีกำหนด แต่เนื่องจากพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ. ๒๔๘๙ มิได้มีบทบัญญัติใดกำหนดให้ธนาคารออมสินต้องนำรายได้ส่งเข้ารัฐ ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายดังกล่าว สมควรแก้ไขเพิ่มเติมให้ธนาคารออมสินสามารถจัดสรรรายได้ที่หักรายจ่ายแล้วส่วนหนึ่งในแต่ละปีส่งเป็นรายได้ของรัฐได้ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
พระราชบัญญัติธนาคารออมสิน (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๖
มาตรา ๘ ให้ประธานกรรมการและกรรมการซึ่งอยู่ในตำแหน่งก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ คงอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะได้มีการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นตามพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ. ๒๔๘๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๙ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ. ๒๔๘๙ ในส่วนที่เกี่ยวกับองค์ประกอบ คุณสมบัติ การแต่งตั้ง วาระการดำรงตำแหน่งการประชุม อำนาจหน้าที่และผลประโยชน์ตอบแทนของคณะกรรมการธนาคารออมสิน ตลอดจนอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เพื่อให้การบริหารและดำเนินงานของธนาคารออมสินมีประสิทธิภาพและคล่องตัวมากขึ้นโดยการนำหลักเกณฑ์ที่เดิมกำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกามาบัญญัติในที่เดียวกัน และสมควรยกเลิกหลักเกณฑ์การจ่ายคืนเงินฝากหรือจ่ายคืนดอกเบี้ยให้แก่หญิงมีสามีเสียใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติมาตรา ๑๔๗๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกำหนดให้สามีหรือภริยาสามารถจัดการสินสมรสนอกจากกรณีที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยมิต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง และแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การจัดการเงินฝากในกรณีที่ผู้ฝากตายเพื่อให้เหมาะสมและเป็นธรรมยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
แนวข้อสอบราชการ
1.แบบไฟล์ PDF ราคา 399 บาท (ได้1–3 ชมหลังโอน)
2.แบบหนังสือ+MP3 ราคา 699 บาท ส่งฟรี (ได้รับ1–3วันทำการ)
3.แบบชุดติวVCD บรรยาย+หนังสือ ราคาชุดละ 2500 บาท
สั่งชื้อแนวข้อสอบ
1. ธนาคารกรุงไทย ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 985–2–20625–7
2. ธนารคารไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 402–6–54466–2
3. ธนาคารกสิกรไทย ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 242–2–10432–6
4.ธนาคารกรุงเทพ ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 521–4–26864–0
บัญชีชื่อ พชรคุณ จูมศิลป์